ชุ่มฉ่ำหน้าฝน ไปน้ำตกพลิ้ว จันทบุรี ให้อาหารปลาพลวงกัน
เท่าที่ผมจำความได้ ผมเคยไปน้ำตกพลิ้วครั้งแรกตอนประถม จำได้ว่าน้ำตกที่นี่สวยมาก หลังจากนั้นก็ได้ดูรูปน้ำตกพลิ้วจากที่คนอื่นไปเที่ยวมา จากหนังสือท่องเที่ยว ภาพฝูงปลาพลวงจำนวนมากในน้ำตกพลิ้ว ซึ่งหาดูไม่ง่ายเท่าไหร่ในน้ำตกอื่น ทริปนี้เราจึงมาลงเอยที่น้ำตกพลิ้วครับ
ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้าย ก่อนที่จะมาถึงน้ำตกพลิ้วมีฝนตกลงมา ซึ่งก็เป็นธรรมดาของหน้าฝน ก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ฝนหยุดก่อนที่จะถึงน้ำตกแล้วฝนก็หยุดจริงๆครับ โดยทิ้งร่อยรอยความชุ่มชื้นไว้ที่ต้นไม้ ใบหญ้า หมอกขาวๆลอยออกมาจากภูเขา
จากถนนบางนา-ตราด (ทางหลวงหมายเลข 3) มุ่งหน้าไปทางตราด เลี้ยวซ้ายที่หลักกิโลเมตรที่ 347 จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าน้ำตกพลิ้วจากนั้นก็เข้ามาอีกประมาณ 2.5 กิโลเมตรก็จะถึงทางเข้าน้ำตก ร้านค้าที่อยู่ทางขวามือของน้ำตกจะส่งคนมาโบกรถให้เข้าไปจอดในร้านค้าของตัวเอง ก็จะมีป้ายบอกว่าจอดฟรี แล้วก็ยืนขวางถนนซะอย่างนั้น เอาก็เอาว่ะ จอดก็จอด ผมพูดกับตัวเองในใจ ที่จอดในร้านจะเป็นหลังคาสังกะสี กันแดดกันฝนได้ มีที่จอดเป็นช่องๆ จอดเสร็จก็ถามที่ร้านว่าต้องฝากกุญแจรถไหม ถ้าฝากกุญแจผมก็คงไม่เอาด้วยหรอกครับ แต่เค้าบอกว่าไม่ต้องฝาก
ร้านค้าที่ผมจอดรถจะขายเครื่องดื่ม ไก่ย่าง ส้มตำ และถั่วฝักยาวที่เป็นอาหารปลาพลวง เราตั้งใจตอนแรกแล้วว่าจะซื้อถั่วฝักยาวไปให้ปลาพลวง เลยซื้อกับทางร้านเลย ผมว่าการให้คนมาจดรถฟรีเป็นการตลาดที่ใช้ได้ผล นักท่องเที่ยวต้องซื้ออาหาร เครื่องดื่มและถั่วฝักยาวให้เป็นอาหารปลาอยู่แ้ล้ว ผมอุดหนุนถั่วฝักยาวที่นี่ไป 3 กำ 50 บาท ถ้าซื้อเป็นกิโลก็กิโลละ 150 บาท ในขณะที่ราคาท้องตลาดกิโลกรัมละ 25 บาท ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงจอดรถฟรี ความจริงแล้วการท่องเที่ยวก็เป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี แต่การค้ากำไรเกินควรก็เป็นการทำลายการท่องเที่ยวเช่นกัน โดนส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อย mind ตรงนี้เท่าไหร่ แต่เล่าสู่กันฟังครับ ถ้าไม่อยากจอดกับทางร้านค้าก็มีที่จอดของอุทยานฯให้จอดได้เหมือนกัน
ว่ากันด้วยเรื่องของอาหารปลาพลวงนิดนึงครับ ที่อุทยานฯ จะอนุญาตให้ถั่วฝักยางเป็นอาหารปลาเท่านั้นนะครับ ข้างในอุทยานฯจะไม่มีถั่วฝักยาวขายต้องซื้อจากด้านหน้าทางเข้าเข้าไปครับ
สำหรับค่าเข้าอุทยานฯ ก็เพียงคนละ 20 บาทเท่านั้น มีเรื่องเศร้านิดหน่อยครับ ที่จำหน่ายบัตรเขียนป้ายบอกไว้ว่ามีน้ำป่ามา เล่นน้ำไม่ได้ มิน่าละวันนี้คนดูน้อยผิดปกติ
หลังจากซื้อบัตรผ่านแล้ว ก็พร้อมลุยแล้วครับ ถนนหนทางข้างในอุทยานฯ เป็นทางลาดยางเดินสบายครับ ปกติเมื่อไปถึงอุทยานแห่งชาติ ไม่ว่าที่ไหนๆ ผมจะเดินเข้าไปหยิบโบชัวร์ท่องเที่ยวของอุทยานฯแห่งนั้นมาดู จะได้เป็นข้อมูลในการเที่ยวของเรา และเป็นข้อมูลมาลงในเวบ รูปด้านล่างซ้ายจะเป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ส่วนทางขวาจะเป็นโรงอาหาร ใครหิวข้าวก็ฝากท้องที่นี่ได้ครับ
คำว่า”พริ้ว” ว่ากันว่าเป็นภาษาชอง แปลว่าทราย หรือหาดทราย แต่เข้าใจว่าชื่อน้ำตกพลิ้วคงได้มาจากต้นไม้ชนิดหนึ้ง ซึ่งชอบขึ้นในดินปนทราย เป็นไม้เถามีดอกเป็นผลเล็กขนาดเท่าลูกเกด สีเหลืองอมแดง ซึ่งขึ้นทั่วไปในแถบนี้
ลักษณะป่าในอุทยานฯ น้ำตกพลิ้วนั้นเป็นป่าดิบชื้น ป่าดิบชื้นเป็นป่าที่มีความหลายหลายของธรรมชาติมาก โดยปกติแล้วป่าดิบชื้นจะกระจายอยู่ที่เส้นศูนย์สูตรของโลก เช่นป่าที่ประเทศมาเลเซีย เกาะบอเนียว ป่าอเมซอน ส่วนป่าดงดิบชื้นที่อุทยานฯ น้ำตกพลิ้วมีความหลากหลายเป็นรองเป็นรองป่าอเมซอนเท่านั้นครับ
![]() |
เมื่อเดินเลยที่ทำการอุทยานฯ ไปนิดนึงก็จะเจอกับสะพานไม้ ตรงนี้เป็นจุดที่เห็นน้ำตกได้ชัด ใครชอบถ่ายรูป แนะนำทำเลตรงสะพานครับ ถ้าเดินข้ามสะพานไปจะเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติของป่าเขตร้อน ระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีครับ |
ขอสอดแทรกสาระนิดนึงครับ เป็นธรรมดาของผมที่จะต้องสอดแทรกสาระไว้ในเรื่องเล่า ถือซะว่าอ่านเพลินๆละกันนะครับ สาระที่ว่านี้คือปลาพลวง ทราบกันไหมครับว่าปลาพลวงสีดำ นั้นเป็นปลาตระกูลเดียวกันกับปาคาร์ฟ มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Soro Brook Carp มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Neolissocheilus soroides ชอบอาศัยอยู่ในน้ำใสสะอาด ออกซิเจนสูงเช่นตามแอ่งน้ำตก หรือลำธารบนภูเขา สามารถหากินได้ทั้งพืชและสัตว์ โดยปกติแล้วจะอยู่กันเป็นฝูงขนาดเล็ก แต่ที่น้ำตกพลิ้วจะผิดธรรมชาติไปหน่อยตรงที่มีคนมาให้อาหารมันมากทำให้ปลาที่นี่อยู่กันอย่างหน้าแน่น นับหมื่นตัว
ปลาพลวง เป็นปลาที่คนไม่นำมารับประทาน เนื่องจากทานแล้วจะเกิดอาการมึนเมา บางคนเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า แต่ความเป็นจริงแล้วปลาพลวงสะสมพิษจากเมล็ดพืชที่กินเข้าไป (ข้อมูลจาก wikipedia)
ใครที่มาน้ำตกพลิ้วมีอยู่ 2 สถานที่ที่ไม่ควรพลาดครับ
- ปิรามิดพระนางเรือล่ม อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ประมาณ 200 เมตร เป็นสถูปทรงปิรามิดสร้างด้วยหินแกรนิต เมื่อ พ.ศ. 2424 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความรักที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงมีต่อพระนางเจ้าสุนันทาฯ หลังจากที่พระองค์เสด็จทิวงคตเนื่องจากเรือพระประเทียบล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในปิรามิดบรรจุพระอังคารส่วนหนึ่งของพระองค์ไว้ด้วย
- อลงกรณ์เจดีย์ อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ประมาณ 250 เมตร สร้างด้วยศิลาแลง เมื่อ พ.ศ. 2419? โดยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2417 ทั้งสองพระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยในน้ำตกพลิ้วมาก จึงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกและพระราชทานนามเจดีย์นี้ว่า ?อลงกรณ์เจดีย์?
สำหรับผมแล้วทริปนี้มีเวลาจำกัดมาก ต้องรีบทำเวลาเข้ากรุงเทพฯต่อ และที่น้ำตกพลิ้วมีน้ำป่าด้วยเลยไม่ค่อยได้ พาไปชมในที่ต่างๆ เท่าไหร่ทริปนี้เลยดูสั้นๆไปหน่อย
ปิดท้ายกันด้วยรูปฝูงปลาพลวงที่น้ำตกพลิ้วครับ มีเยอะมากๆ แต่น้ำขุ่นเนื่องจากมีน้ำป่ามา ผมโยนถั่วฝักยาวให้ปลา 3 กำแปปเดียวหมดเลย คิดว่าคราวหน้าคงต้องมาซ่อมที่น้ำตกพลิ้วอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่ได้เดินป่าและเล่นน้ำตกเลย ถ้ายังหาที่เที่ยวไม่ได้ลองมาเที่ยวจันทบุรีกันดูนะครับ เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์มีทั้งทะเล ป่า น้ำตก สำหรับทริปนี้ผมต้องขอตัวกลับกรุงเทพฯ ก่อนทริปหน้าเจอกันใหม่ครับ
สมัยเรียนมัธยม ไปกันบ่อย ทำรายงาน อิอิ
ไปมาหลายครั้งแล้ว ก็บ้านอยู่ที่จันท์นิ ชอบไปให้อาหารปลา ปลาเยอะมากๆๆเลย น้ำเย็นดี